‘รู้จริง เลือกคิง’ กับ 10 คุณประโยชน์เพื่อสุขภาพลูกรัก

5/5 - (1 vote)

‘รู้จริง เลือกคิง’ กับ 10 คุณประโยชน์เพื่อสุขภาพลูกรัก

เมื่อจะทำอาหารผัดๆ ทอดๆ ให้ลูกรัก คุณแม่จะต้องนึกถึงน้ำมัน แล้วสิ่งที่จะต้องนึกตามมา ก็คือ เรื่องของสุขภาพที่ดีของลูกรัก เพราะน้ำมันจัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่ควรได้รับปริมาณน้อย แต่ในท้องตลาดมีหลายชนิดที่เคลมว่ามีประโยชน์ ทำให้ได้รับข้อมูลมากจนสับสนว่าดีจริงมั้ย จะรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องใดจริงเท็จ มีอะไรมายืนยันว่าดีจริง เรามีคำตอบที่พิสูจน์ได้จริงจากน้ำมันรำข้าวคิงที่นานาประเทศให้การยอมรับ และมีการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศกว่า 30 ประเทศทั่วโลกมาฝากกันแล้วค่ะ

น้ำมันรำข้าวคิงดีอย่างไร

กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิงในฐานะผู้นำในตลาดน้ำมันรำข้าวมาอย่างยาวนาน มีโรงงานที่ใช้ระบบการผลิตทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีห้องแล็บระดับมาตรฐานสากล พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ครบถ้วน จึงสามารถควบคุมคุณภาพของน้ำมันรำข้าวคิงให้สูงอย่างสม่ำเสมอ และสามารถพิสูจน์คุณประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวคิงได้จริงด้วยผลการวิเคราะห์และงานวิจัยจากสถาบันที่น่าเชื่อถือทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวคิงเกรดพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพสูงดีจริงครบ 10 ประการ ดังนี้

1. มีโอรีซานอลมากกว่า 6,000 ppm 

เป็นสารธรรมชาติที่พบในน้ำมันรำข้าวเท่านั้นไม่พบในน้ำมันพืชชนิดอื่น มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า จากการวิจัยพบว่าช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ลดการสังเคราะห์คอเลสเตอรอลในตับ ปรับสมดุลของระบบฮอร์โมนในสตรีวัยทองโดยช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ

2. มีไฟโตสเตอรอลมากกว่า 16,000 ppm 

เป็นสารธรรมชาติที่พบเฉพาะในพืช ลักษณะโครงสร้างทางเคมีใกล้เคียงกับคอเลสเตอรอล ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกาย มีงานวิจัยที่ใช้บำบัดผู้ป่วยที่มีภาวะคอเลสเตอรอลสูง ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลรวมและคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีลดลง ยับยั้งการเติบโตของเซลล์เนื้องอก เซลล์มะเร็ง ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก ช่วยป้องกันการเกิดปฎิกิริยาออกซิเดชั่นของน้ำมันเมื่อให้ความร้อนได้เหมือนโอรีซานอลและวิตามินอี

3. มีวิตามินอีถึง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มโทโคฟีรอลและกลุ่มโทโคไตรอีนอล 

น้ำมันทั่วไปจะมีกลุ่มโทโคฟีรอล ส่วนกลุ่มโทโคไตรอีนอลจะมีเฉพาะในน้ำมันบางชนิด กลุ่มโทโคไตรอีนอลจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่ากลุ่มโทโคฟีรอล น้ำมันรำข้าวคิงมีปริมาณกลุ่มโทโคฟีรอล 186 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีกลุ่มโทโคไตรอีนอลสูงถึง 416 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม นับว่ามีวิตามินอีรวมสูง จึงช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดี และช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย

4. มีสัดส่วนของกรดไขมันที่เหมาะสมต่อการบริโภค

มีสัดส่วนของกรดไขมันที่ผ่านเกณฑ์การตรวจวิเคราะห์ของโครงการอาหารไทย หัวใจดี โดยมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จนได้รับอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” โดยมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวต่อกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวเท่ากับ 1 :1.8 และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่งน้อยกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว

5. มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง  

คุณสมบัติที่ดีของกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว คือ สามารถลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ได้ จึงมีส่วนช่วยลดการอุดตันของผนังหลอดเลือดแดง และยังสามารถช่วยเพิ่มหรือคงระดับคอเลสเตอรอลตัวดีได้อีกด้วย

6. ค่ากรดไขมันทรานส์ เท่ากับ 0 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 

น้ำมันรำข้าวคิงจึงปลอดภัยต่อการบริโภค หมดกังวลเรื่องกรดไขมันทรานส์ ที่เป็นไขมันอันตราย ทำให้เพิ่มคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และลดคอเลสเตอรอลที่ดี ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

7. มีจุดเกิดควันสูง  

เมื่อใช้ไฟร้อนถึงระดับหนึ่งจะเกิดควันที่มีอันตรายต่อสุขภาพ มีการวิจัยที่ประเทศไต้หวัน พบว่าควันจากน้ำมัน มีสารประกอบในกลุ่ม Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAHs) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ทำให้หญิงชาวไต้หวันที่ประกอบอาหารในบ้านป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด จึงควรเลือกใช้น้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูง ทนต่อความร้อนได้ดีเช่นน้ำมันรำข้าวคิง ที่มีจุดเกิดควันสูงถึง 240 ํC  ซึ่งเหมาะที่จะใช้ทอดแล้วยังใช้ทำอาหารได้ทุกเมนู ไม่ต้องแยกน้ำมันให้ยุ่งยากอีกต่อไป

8. ไม่มีกลิ่น และรสชาติเป็นกลาง

จึงช่วยให้ได้กลิ่นและรสชาติแท้ๆ ของเครื่องปรุงและส่วนผสมอย่างเด่นชัดในอาหารทุกจาน

9. ไม่ใส่สารกันหืนสังเคราะห์ 

สารกันหืนสังเคราะห์ เช่น BHA BHT และ TBHQ จะถูกเติมในน้ำมัน เพื่อป้องกันการออกซิเดชั่นที่ทำให้เกิดกลิ่นหืน แต่สารเหล่านี้อาจมีผลต่อเซลล์ในร่างกาย โดยเฉพาะ BHT ที่เป็นตัวเสริมในการเกิดเนื้องอก พบว่าทั้ง BHA และ BHT ต่างส่งเสริมกระบวนการเกิดมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะหากสะสมมาก แต่ในน้ำมันรำข้าวคิงมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดและมีในปริมาณมาก ได้แก่ โอรีซานอล ไฟโตสเตอรอล วิตามินอี ซึ่งช่วยป้องกันการออกซิเดชั่นโดยธรรมชาติ ทนการเกิดหืนได้ดี น้ำมันรำข้าวคิงจึงไม่ต้องใส่สารกันหืนสังเคราะห์ 

10. ผลิตจากข้าวไทยที่ปลอดจากการดัดแปลงทางพันธุกรรม หรือปลอด GMOs 

ปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ ให้การรับรองว่าข้าวไทยปลอดจากการดัดแปลงทางพันธุกรรมจึงมั่นใจได้ว่ารำข้าวที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันรำข้าวคิง ปลอดภัยจาก GMOs ด้วยเช่นกัน 

นอกจากจุดเด่นของน้ำมันรำข้าวคิง โอรีซานอล 6,000 ppm ที่ผลิตจากรำข้าว 100% อุดมด้วยสารธรรมชาติที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง อย่างโอรีซานอล ไฟโตสเตอรอล วิตามินอี และมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากน้ำมันอื่นๆ อย่างชัดเจนหลายประการดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีผู้รู้จริง มีประสบการณ์จริงในการใช้น้ำมันรำข้าวคิงจากหลายสาขาอาชีพ ได้แก่ นักวิชาการ นักแสดง นักข่าว นักธุรกิจ มาร่วมยืนยันความจริงของน้ำมันรำข้าวคิงผ่านซีรีส์คลิปสั้นๆ ถึงจาก 7 คน มาดูกันว่าใครเป็น “ผู้รู้จริง” ของน้ำมันรำข้าวคิง กันบ้างค่ะ  

7 ผู้รู้จริงยืนยันตรงกันว่าน้ำมันรำข้าวคิง ดีจริง  

คลิปที่ 1  “ตัวจริง” 

คุณโอปอล์ – ปาณิสรา อารยะสกุล นักแสดงและพิธีกรมืออาชีพที่ทันสมัย มั่นใจ ใฝ่ศึกษาค้นคว้าจนรู้จริงก่อนลงมือทำในทุกเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ศึกษาหาข้อมูลน้ำมันรำข้าวคิงมาอย่างละเอียด และได้เลือกใช้น้ำมันรำข้าวคิง ประกอบอาหารให้ครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว จึงได้มาเป็นผู้ถ่ายทอดความจริงและเรื่องราวดีๆ ของน้ำมันรำข้าวคิงให้ผู้บริโภคได้รับรู้จนเกิดความมั่นใจ

คลิปที่ 2  “อยากรู้จริง ต้องฟังใคร”

ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ หัวหน้าภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหิดล  เป็นอนุกรรมการและเลขานุการโครงการอาหารไทยหัวใจดี จัดโดยมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหิดล นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและโภชนาการ ที่ช่วยแนะนำวิธีเลือกน้ำมันเพื่อสุขภาพ และยืนยันคุณประโยชน์ของสารธรรมชาติที่มีในน้ำมันรำข้าว  

คลิปที่ 3 “ต้องใช้จริง ถึงจะรู้จริง” 

คุณพล ตัณฑเสถียร  นักแสดงผู้ชื่นชอบการทำอาหาร เป็นเชฟผู้มีชื่อเสียง เป็นเจ้าของและผู้ดำเนินรายการ“พลพรรคนักปรุง” ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี และเจ้าของร้านอาหารสุดฮิปสไตล์ฟิวชั่นฟู้ด เปิดใจถึงความประทับใจที่มีต่อน้ำมันรำข้าวคิง จนมั่นใจเลือกใช้ที่บ้านและ ร้านอาหาร ช่วยบอกต่อถึงคุณประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวคิง รวมทั้งคุณสมบัติเด่นที่เป็นเคล็ดลับในการทำอาหาร

คลิปที่ 4 “เรื่องลูก ถ้ารู้จริงก็หายห่วง” 

คุณปุ้ม – เปรมสุดา สันติวัฒนา ผู้ดำเนินรายการฝน ฟ้า อากาศ และผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง7 บทบาทคุณแม่คนใหม่ที่มาแชร์ประสบการณ์ในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดและการใช้น้ำมันรำข้าวคิงเสริมคุณค่าให้กับอาหารของลูก มีความมั่นใจในกระบวนการผลิตและคุณค่าของน้ำมันรำข้าวคิงเพราะใช้มาตั้งแต่รุ่นแม่ 

คลิปที่ 5 “ทำได้ทุกสิ่ง เมื่อรู้จริงและใส่ใจ” 

คุณนุช – นุชนารถ รัตนเวโรจน์  เจ้าของและผู้ดำเนินรายการ Lighthouse Family สถานีโทรทัศน์ช่อง5 ผู้รู้จริงในการบาลานซ์ชีวิตทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องดูแลสมาชิกในครอบครัว ทั้งสามี-คุณจอห์น นูโว และลูกชายทั้งสอง-จัสตินและสกาย ซึ่งน้ำมันรำข้าวคิงก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่คุณนุชใช้ในการดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว 

คลิปที่ 6 “ยิ่งใช้ ยิ่งรู้ว่าดี”

คุณอ้อ – ญาณภา เข็มทอง  เจ้าของเพจ กินข้าวกัน by แม่อ้อ ที่ทำสถิติมีผู้ติดตามนับล้านภายในเวลาเพียง 5 เดือน ในฐานะผู้รู้ด้านการทำอาหารให้น่าทานและสามารถทำตามได้ง่าย จะมาเล่าถึงจุดเริ่มที่ได้มาใช้น้ำมันรำข้าวคิง และบอกจุดเด่นของน้ำมันรำข้าวคิงที่ทำให้เธอติดใจ คือ มี”คิง”ขวดเดียวก็ทำครบได้ทุกเมนู โดยไม่ต้องแยกน้ำมันผัด น้ำมันทอด

คลิปที่ 7 “เช็คให้ชัวร์ ก่อนแชร์”

คุณแดนนี่-พิชาพัฒน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้ประกาศข่าวรอบวัน/ข่าวเที่ยงรายวัน ของช่อง One จะมาทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบความจริงของน้ำมันรำข้าวคิง ในทุกเรื่องที่คิงนำเสนอเป็นจุดขาย พร้อมช่วยยืนยันให้ผู้บริโภคได้มั่นใจว่า ทุกสิ่งที่คิงพูดสามารถพิสูจน์ได้จริง โดยมีงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศมาสนับสนุน

รู้เรื่องจริงจากน้ำมันรำข้าวคิงแบบนี้แล้ว 

เลือกน้ำมันประกอบอาหารครั้งต่อไป..คุณแม่คงตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแล้วนะคะ

เพราะเรื่องอาหารของลูกจะต้องเลือกเฟ้นให้ที่ดีที่สุดอย่างน้ำมันใช้ทำอาหาร ต้องดีจริงเท่านั้น เพื่อให้เป็นตัวช่วยสำหรับการเสริมสร้างลูกน้อยและทุกคนในบ้านให้มีสุขภาพที่ดีที่สุดได้ในทุกๆวัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณแม่จะเป็นอีกหนึ่งผู้บริโภคที่เป็น “ผู้รู้จริงในน้ำมันรำข้าวคิง” และร่วมแชร์เรื่องราวดีๆที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเหล่านี้ไปสู่คนรอบข้างนะคะ

ฐิติพันธุ์ชมสว่างเป็นผู้ฝึกสอน CrossFit อายุ 40 ปีจากประเทศจีนฮ่องกง เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อ 15 ปีก่อน เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ศูนย์ออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้อื่นมีสุขภาพดีและมีรูปร่าง เธอแต่งงานแล้วและมีลูกชายคนแรกและใช้เวลาว่างของเธอในการฝึกซ้อมมาราธอน
ฐิติพรรณ จอมสว่าง