6 เครื่องดื่มต้องห้าม >>> กินคู่กับยา

5/5 - (1 vote)

6 เครื่องดื่มต้องห้าม >>> กินคู่กับยา

 

มื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องกินยาตามแพทย์สั่งให้ครบ สิ่งแรกที่ต้องนึกถึง คือ น้ำ ซึ่งก็คือน้ำเปล่าเท่านั้น ไม่ควรเป็นเครื่องดื่มอื่น เพราะมีผลกระทบต่อสุขภาพ แถมยังอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ มาติดตามสิว่าเครื่องดื่มต้องห้าม มีอะไรกันบ้าง

1. นม

นมเป็นเครื่องดื่มที่ดี เป็นแหล่งแคลเซียมที่ช่วยสร้างกระดูกลูกได้ แต่เมื่อใดที่แม่ๆ หรือคนทั่วไปเจ็บป่วย ต้องกินยา นมก็กลายเป็นเครื่องดื่มต้องห้ามทันที เพราะนมมีแคลเซียม โปรตีน เหล็กที่ไปจับตัวยาบางชนิด เช่น ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ยาลดกรด ทำให้ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ ยาก็จะหมดประสิทธิภาพ  ไม่ออกฤทธิ์ และไม่หายจากโรคค่ะ

2. กาแฟ 

ปกติกาแฟก็มีคาเฟอีนที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเผลอไปกินร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาแก้หวัด ยาขยายหลอดลม ก็จะยิ่งเป็นอันตราย จะยิ่งทำให้เกิดอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เป็นมากๆ เข้าก็อาจเกิดอาการช็อกได้

3. น้ำผลไม้

น้ำผลไม้จะต่อต้านการดูดซึมของยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว และโรคภูมิแพ้ต่างๆ ซึ่งน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างน้ำส้ม น้ำมะนาว มีผลทำให้กรดในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีปวดท้องมากขึ้น

4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผู้ที่อาการแฮงก์ ห้ามกินยาแก้ปวดอย่างแอสไพริน อาจทำให้เป็นแผลในกระเพาะ ผู้ที่กินยาขยายหลอดเลือด ก็จะยิ่งทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากไป จนทำให้มึน เป็นลม หมดสติ ผู้ที่ใช้ยาฆ่าเชื้อ ถ้ากินยาด้วยก็อาจทำให้ใจสั่นเต้นเร็วกว่าปกติ จะเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ผู้ที่ต้องกินยาลดน้ำตาล ก็จะไปทำลายตับ ยับยั้งการสร้างกลูโคส ทำให้หน้ามืดใจสั่น หมดสติ หรือถ้ากินยาพาราที่ออกฤทธิ์ต่อตับด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคตับวายได้ค่ะ

5. เครื่องดื่มน้ำอัดลม

น้ำอัดลมมีทั้งกรดต่างๆ และคาเฟอีน ที่ขัดความการทำงานของยา เช่น ยาลดกรด ทำให้ฤทธิ์ยาหมดประสิทธิภาพ กินกับยาขยายหลอดลมก็ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มมากขึ้น แก๊สที่มีมากในน้ำอัดลมก็จะกัดกระเพาะ เป็นตัวขัดขวางให้ตัวยาไม่สามารถดูดซึมได้ดี จึงไ่ม่สามารถลดกรดในกระเพาะได้เช่นกัน 

6. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนที่ต้องห้ามกินกับยา นอกจากกาแฟ น้ำอัดลม ยังมีน้ำชา โกโก้ รวมทั้งเครื่องดื่มชูกำลังสารพัด ที่ต้องห้ามดื่มคู่กับยา โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม เพราะอาจส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว เต้นผิดจังหวะ อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ทำไม น้ำเปล่าถึงดีที่สุด 

เพราะน้ำเปล่าไม่มีผลต่อตัวยา การดื่มน้ำเปล่าๆ สะอาดๆ ในอุณหภูมิห้องปกติ ธรรมดาๆ ไม่เย็น ไม่อุ่นจัด จะเป็นตัวนำยาเข้าไปสู่อวัยวะภายในร่างกายได้อย่างปลอดภัยที่สุด ช่วยให้ยาออกฤทธิ์ โดยซึมเข้าไปตามกระแสเลือดได้ดีที่สุดนั่นเอง

 

Mother & Care Free Mag VOL.13 NO.136/35

ฐิติพันธุ์ชมสว่างเป็นผู้ฝึกสอน CrossFit อายุ 40 ปีจากประเทศจีนฮ่องกง เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อ 15 ปีก่อน เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ศูนย์ออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้อื่นมีสุขภาพดีและมีรูปร่าง เธอแต่งงานแล้วและมีลูกชายคนแรกและใช้เวลาว่างของเธอในการฝึกซ้อมมาราธอน
ฐิติพรรณ จอมสว่าง