สอนเด็กเอาตัวรอดจาก…การติดอยู่ในรถ

5/5 - (1 vote)

สอนเด็กเอาตัวรอดจาก…การติดอยู่ในรถ

ต้องถือคติ กันไว้ดีกว่าแก้ ในทุกกรณีไม่ควรทิ้งเด็กๆ ให้อยู่ในรถตามลำพัง เพราะเด็กอาจเล่นซุกซนเล่นเกียร์ขณะรถสตาร์ทอยู่ หรือเผลอไปกดกระจกไฟฟ้าเล่นแล้วเกิดพลาดหนีบอวัยวะได้รับบาดเจ็บหรืออาจเสียชีวิตได้

Mom & Dad can do

นอกจากการระมัดระวังแล้ว การให้ความรู้ สอนวิธีเอาตัวรอด ถือเป็นสิ่งสำคัญ ต้องสอนเด็กๆ เอาตัวรอดจากเหตุฉุกเฉิน เช่น สอนวิธีบีบแตรขอความช่วยเหลือ สอนวิธีปลดล็อครถ สอนวิธีทุบกระจกรถเพื่อหนีออกมา และบอกอันตรายถึงการเล่นซุกซน

โดยหลักการเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ยังทำไม่ได้ แม้เด็กจะทำได้ก็อาจทำในเวลาไม่เหมาะสม เช่น การสอนเปิดประตู เด็กอาจเปิดประตูขณะรถแล่น แต่เวลาติดอยู่ข้างในรถอาจเอาแต่ร้องไม่เปิดเอง จึงต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแลใกล้ชิดเสมอ โดยเฉพาะเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี ต้องอยู่ในระยะที่ผู้ใหญ่มองเห็นและคว้าถึง ส่วนเด็กอายุ 3-6 ปี ต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นและเข้าถึง ฉะนั้นจะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีคนเห็น และจะโทษพฤติกรรมเด็กไม่ได้

ในกรณีรถโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่อาจมีส่วนร่วมช่วยกระตุ้นให้โรงเรียนมีการฝึกอบรมคนขับรถและครูประจำรถ การฝึกซ้อมเด็กๆ ในกรณีที่ติดอยู่ในรถ ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กขณะที่อยู่ในรถเป็นสำคัญ ต้องตรวจนับจำนวนเด็กขึ้นลงให้ถี่ถ้วน มีครูผู้ช่วยดูแลเด็กในรถเสมอ ไม่ใช่มีคนขับคนเดียว เมื่อเสร็จภาระก่อนล็อกประตูต้องดูให้ทั่วรถ ตอนหน้า ตอนกลาง ตอนหลัง มีเด็กเหลืออยู่หรือไม่ ทำเป็นแบบแผนปฏิบัติงานจนเป็นนิสัย เพราะโรงเรียนไม่ได้มีหน้าที่เพียงให้การศึกษาและพัฒนาผู้เรียนเท่านั้น แต่ต้องดูแลให้ได้รับความปลอดภัยในระหว่างเรียนด้วย

ใช้วิธีติดสติ๊กเกอร์ จอดรถอย่าลืมเด็กหรือ อย่าทิ้งเด็กในรถเพื่อเตือนใจคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงคุณครูและคนขับรถให้ฉุกคิดถึงความปลอดภัยตลอดเวลา

สาเหตุที่เด็กเสียชีวิต

ส่วนใหญ่เด็กที่ติดอยู่ในรถไม่ได้เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เสียชีวิตเพราะความร้อนที่อยู่ในรถ โดยเวลาเพียง 5 นาที อุณหภูมิในรถจะเพิ่มสูงขึ้นจนเด็กไม่สามารถอยู่ได้ และยิ่งนานเกิน 10 นาที ร่างกายของเด็กจะแย่ลง เกินกว่าที่เด็กจะปรับตัวเพื่อกำจัดความร้อนในร่างกายได้ ส่งผลให้เซลล์ตาย เม็ดเลือดแตก เลือดเป็นกรด เกิดภาวะสมองบวมจนกดทับศูนย์ควบคุมการหายใจ และภายใน 30 นาทีเด็กอาจหยุดหายใจ และอวัยวะทุกอย่างหยุดทำงานจนถึงขั้นเสียชีวิต

วิธีการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเด็กที่ติดอยู่ในรถ

ขอบคุณข้อมูลจาก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) 

ฐิติพันธุ์ชมสว่างเป็นผู้ฝึกสอน CrossFit อายุ 40 ปีจากประเทศจีนฮ่องกง เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อ 15 ปีก่อน เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ศูนย์ออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้อื่นมีสุขภาพดีและมีรูปร่าง เธอแต่งงานแล้วและมีลูกชายคนแรกและใช้เวลาว่างของเธอในการฝึกซ้อมมาราธอน
ฐิติพรรณ จอมสว่าง