เมื่อลูกปวดหูดูแลอย่างไร

3.3/5 - (3 votes)

อาการปวดหูมักมีสาเหตุมาจากหูชั้นกลางอักเสบจากการติดเชื้อ ซึ่งเกิดได้บ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ เพราะท่อยูสเตเชียนที่เชื่อมระหว่างช่องคอกับช่องหูสั้นมาก ทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในบริเวณคอและจมูกแพร่กระจายไปถึงหูชั้นกลางได้ง่าย แล้วจะดูแลอย่างไรดี เราไปติดตามกันค่ะ

 

รู้จักอาการปวดหูกันก่อน

การปวดหูที่ทำให้เด็กรู้สึกเจ็บมากจะเกิดจากการติดเชื้อของหูชั้นนอก ซึ่งอาจเกิดจากสิ่งแปลกปลอมเข้าหู หรือเป็นฝีในหู จะเจ็บเมื่อแตะใบหู มักเอามือถูบริเวณหูหรือดึงใบหู เจ็บปวดรอบๆหู มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส มีหนองไหลจากหู ไม่ค่อยได้ยินเสียง เมื่อปวดฟัน ต่อมน้ำเหลืองบวมโต ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นคางทูม เด็กก็อาจบอกว่าปวดหูด้วย แต่ในเด็กเล็กจะยังไม่สามารถแยกแยะให้ทราบได้ว่าอาการปวดเกิดขึ้นตรงไหน ดังนั้นคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกด้วย

 

ปวดหูร้ายแรงหรือไม่

ถ้ามีอาการร่วมกับการสูญเสียการได้ยินในเด็ก ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล ถ้าหากลูกไม่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ หรือไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อหูชั้นกลางแบบถาวร ทำให้เด็กหูหนาว ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงพัฒนาการด้านการพูดและการเรียนรู้ในอนาคต

 

วิธีดูแลเบื้องต้น

1.วัดอุณหภูมิดูว่าลูกมีไข้หรือไม่

2.ตรวจดูว่ามีหนองไหลออกมาจากช่องหูหรือไม่

3.ทดสอบดูว่าลูกยังได้ยินเสียงชัดเจนหรือไม่ วิธีปฏิบัติ คือ ตอนที่ลูกหันหน้าไปทางอื่นให้เรียกชื่อลูกเบาๆ แล้วดูว่าลูกจะได้ยินแล้วหันหน้ากลับมาหรือไม่

4.ตรวจดูในช่องคอว่าลูกมีทอนซิลอักเสบบวมแดงหรือไม่

5. ตรวจดูช่องหูว่าบวมหรือไม่ เพราะลูกอาจเป็นฝีในรูหู แต่ห้ามแหย่สิ่งใดเข้าไปในรูหูเด็ดขาด

6. ห้ามใช้ยาหยอดหู หรือแหย่ไม้พันสำลี หรือใส่สิ่งใดเข้าไปในรูหูทั้งสิ้น นอกจากแพทย์สั่งเท่านั้น

7.พาลูกไปพบแพทย์ทันทีที่ลูกบ่นปวดหูร่วมกับมีไข้ หรือมีหนองไหลจากหู ถ้าลูกยังเล็กให้คอยสังเกตถ้าลูกร้องไห้งอแง เอามือถูหรือดึงหูก็ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที

 

 

ข้อแนะนำ

นอกจากอาการปวดหูที่อาจเกิดร่วมกับการสูญเสียการได้ยินแล้ว เด็กสามารถสูญเสียการได้ยินจากระดับเสียงที่ดังเกินมาตรฐาน เช่น เสียงโรงงาน เสียงดนตรีผ่านหูฟัง หรือตามสถานบันเทิงซึ่งควรควบคุมระดับเสียงต่างๆไม่ให้ลูกฟังเกิน 90 เดซิเบล  

ฐิติพันธุ์ชมสว่างเป็นผู้ฝึกสอน CrossFit อายุ 40 ปีจากประเทศจีนฮ่องกง เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อ 15 ปีก่อน เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ศูนย์ออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้อื่นมีสุขภาพดีและมีรูปร่าง เธอแต่งงานแล้วและมีลูกชายคนแรกและใช้เวลาว่างของเธอในการฝึกซ้อมมาราธอน
ฐิติพรรณ จอมสว่าง